โดยตรวจ Statement และใบนำฝาก กับสมุดเงินฝากธนาคารของกิจการ ดูว่ามีเงินฝากระหว่างทางหรือไม่
ส่วนใหญ่มีกันทุกเดือนครับ แต่ทางกิจการเค้าก็ดีนะครับ ทำงบพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคารมาให้เลย เพียงแค่เรา
ไปไล่ดูว่าเค้านำฝากเมื่อไรและ เข้าไปในStatement วันไหนแค่นั้นล่ะครับ (ไม่งั้นแย่เลยต้องมานั่งทำงบพิสูจน์
ยอดเงินฝากธนาคาร) จากนั้นก็ไปตรวจแยกประเภท กับ สมุดรายวันทั่วไป ,
ตรวจแยกประเภท กับ สมุดเงินสดย่อย , ตรวจทะเบียนการจ่ายเช็ค กับ Statement ว่ามีเช็คค้างจ่ายหรือไม่
มันก็มีอีกทุกเดือนนั้นล่ะครับ ส่วนใหญ่กิจการจ่ายไปแล้ว แต่ทางเจ้าหนี้ยังไม่ได้นำเช็คไปขึ้นเงิน แต่จะไปขึ้น
เดือนถัดไปแทนครับ จากการสังเกตุทั้ง 12 เดือน ก็เป็นแบบนี้หมดครับ อ่ะจบจากการตรวจเอกสารกิจการนี้
ก็ไปต่อ กิจการอันเก่าต่อครับ โดยคราวนี้ ผมได้ใช้โปรแกรม Excel ในการคำนวณค่าเบี้ยประกัน พร้อมทั้งบัน
ทึกกระดาษทำการคำนวณค่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งสูตร พี่ฟ้าได้ทำการผูกเอาไว้เีรียบร้อยแล้ว ผมมีหน้าที่
กรอกอย่างเดียวครับ พอบันทึกเสร็จ ผมก็ไปปรับปรุงการบันทึกบัญชีของกิจการในส่วนของ
ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า สาเหตุมาจากกิจการบันทึกเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้าไปเป็นค่าใช้จ่าย โดยตอนแรกเค้าบันทึกแบบนี้ครับ
Dr.ภาษีเงินได้นิติบุคคลxx
Cr.เงินสด/เงินฝากธนาคารxx
จริง ๆ ตามหลักเค้าต้องบันทึกภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้าไปเป็นสินทรัพย์ แล้วค่อยเอาไปเครดิต
ภาษีตอนคำนวณ ภงด.50 ตอนสิ้นปี ดังนั้นผมจึงต้องปรับปรุงดังนี้ครับ
Dr.ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้าxx
ภาษีตอนคำนวณ ภงด.50 ตอนสิ้นปี ดังนั้นผมจึงต้องปรับปรุงดังนี้ครับ
Dr.ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้าxx
Cr.ภาษีเงินไ้ด้นิติบุคคลxx
สำหรับงานช่วงบ่าย ๆ พี่ ๆ ที่สำนักงานหายไปไหนกันหมดก็ไม่รู้ สงสัยจะไปธุระกันข้างนอก ทิ้งพี่เล้ง กับ พี่แนน อยู่กัน 2 คน และวันนี้นักศึกษาฝึกงานก็มาน้อยกว่าทุก ๆ วันด้วยครับ ทำให้บรรยายกาศดูเงียบ ๆ ไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น